ไม้ดอก
ทำความรู้จักกับ “ต้นมรกตแดง” ต้นไม้มาแรง ควรมีไว้ที่บ้าน !

ทำความรู้จักกับ “ต้นมรกตแดง” ต้นไม้มาแรง ควรมีไว้ที่บ้าน !

Spread the love

ทำความรู้จักกับ “ต้นมรกตแดง” ต้นไม้มาแรง ควรมีไว้ที่บ้าน !

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมองหาต้นไม้สักต้นในการปลูกประดับตกแต่งบ้าน หรือ สวน มาถูกทางแล้ว เพราะวันนี้เราจะมานำเสนอต้นไม้ที่น่าสนใจและมาแรงในปี 2022 ! นั่นก็คือ “ต้นมรกตแดง” มาทำความรู้จักกับต้นไม้นี้กันเลย

มรกตแดง ต้นไม้มงคลในบ้าน สีสวยสดใส เสริมบารมี

ต้นมรกตแดงเป็นต้นไม้ที่สามารถปลูกประดับตกแต่งบ้าน หรือ จะปลูกเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ก็ได้ค่ะ เพราะจัดว่าเป็นไม้กระแสที่ไม่ว่าใครก็อยากได้ไปครอบครอง สามารถทำรายได้มากกว่า 6 หลัก ! เป็นไม้มงคลที่อยู่เคียงคู่กับชาวไทยเรามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน !

มรกตแดง ต้นไม้มงคลในบ้าน สีสวยสดใส เสริมบารมี

ต้นมรกตแดงมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Red Emerald Philodendron เป็นไม้ประดับในตระกูลฟิโลเดนดรอน และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Philodendron erubescens ค่ะ ในส่วนของต้นเป็นต้นที่มีความสวยงามค่ะ เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้าน เพราะจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของเราได้เป็นอย่างดีค่ะ โดยต้นมรกตแดงจะมีลักษณะมีลำต้นเป็นปล้องสีแดงเข้มสวยงามมาก ๆ อีกทั้งยังมีอายุยืนยาวหลายปี มีจุดเด่นและมีความสวยงาม ทันสมัย เพราะมีใบเป็นรูปหัวใจ เหมือนกับที่เป็นที่ต้องการในตอนนี้ มีปลายแหลมโคนหยัก ขอบเป็นคลื่นห่าง ถ้าหากว่าแตกใบอ่อนด้านบนจะมีสีแดงเข้ม เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมแดง ก้านใบเป็นทรงกระบอกเรียว ความยาวประมาณ 28 – 35 เซนติเมตร

มรกตแดง ไม้เลื้อยมงคลเสริมฮวงจุ้ย แก้ฝุ่น PM 2.5

ต้นมรกตแดงมีดอกด้วยนะคะ เพราะจะออกดอกเป็นช่อ สวยงาม และอย่างที่เราบอกกันว่าต้นมรกตแดงเป็นอีกหนึ่งต้นไม้มงคลในประเทศไทย เพราะฉะนั้นเราไปดูความเชื่อเกี่ยวกับต้นมรกตแดงกันค่ะ มีความเชื่อกันว่าหากนำมาปลูกประดับไว้ในบ้านจะช่วยเสริมเรื่องเงินทองโชคลาภ อีกทั้งยังสร้างเสน่ห์อันน่าดึงดูดใจให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของค่ะ อีกทั้งถ้าหากว่าเราปลูกประดับตกแต่งไว้ที่บ้าน จะช่วยให้บ้านเย็น และทำให้คนในบ้านมีความสุขปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากบ้าน

ในการปลูกมรกตแดง เราสามารถทำได้หลากลายวิธีเลยค่ะ ส่วนมากแล้วจะนิยมขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง เพาะเมล็ด และปักชำยอดค่ะ ในการปลูกมรกตแดงจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายน้ำได้ดี ชอบน้ำปานกลาง รดน้ำ 3 – 5 วันต่อครั้ง หรือวันละครั้งในหน้าร้อนพอให้ดินชุ่ม แต่ไม่เปียกจนแฉะ และวางกระถางไว้ในที่มีแดดรำไร


ที่มา medthai

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *