
ต้นสะแก ไม้ใหญ่น่าปลูกสารพัดประโยชน์ เป็นได้ทั้งยารักษาโรคและให้ร่มเงา
ต้นสะแก ไม้ใหญ่น่าปลูกสารพัดประโยชน์ เป็นได้ทั้งยารักษาโรคและให้ร่มเงา
ต้นสะแก (Bushwillows , Combretums) หรือ สะแกนา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Combretum quadrangulare Kurz วงศ์ COMBRETACEAE เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย ต่อมาจึงได้มีการกระจายขยายพันธุ์ไปยังประเทศใกล้เคียงอื่น ๆ เช่น อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ไทย ฯลฯ ในไทยสามารถพบได้ตามป่าเต็งรัง ป่าละเมาะ และตามพื้นที่ป่าทั่วไปในแทบทุกภูมิภาค
ต้นสะแกเป็นที่รู้จักของคนไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในสมัยโบราณ ในสมัยก่อนมักปลูกไว้เพื่อให้ร่มเงา ช่วยให้บริเวณที่พักอาศัยมีร่มไม้ใช้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และอีกนัยหนึ่งก็ยังสามารถช่วยปรับอุณหภูมิของพื้นที่โดยรอบให้เย็นสบายขึ้นด้วย รวมถึงยังได้ประโยชน์จากส่วนของเนื้อไม้ด้วยไม่ว่าจะเป็นลำต้น กิ่ง และใบ โดยส่วนลำต้นมักจะนำไปใช้ในงานก่อสร้าง เครื่องมือการเกษตร และเฟอร์นิเจอร์ กิ่งก้านสามารถนำไปทำเป็นเชื้อเพลิง(ส่วนมากนิยมนำไปเผาถ่าน) และส่วนใบแห้งนั้นสามารถนำไปทำเป็นปุ๋ยธรรมชาติได้ดี
นอกจากนี้ก็ยังเป็นพืชสมุนไพรที่สามารถรักษาโรคได้หลากหลาย เช่น ขับพยาธิ รักษาโรคมะเร็ง แก้ไข้ ริดสีดวงทวาร มดลูกอักสบ ช่วยขับน้ำคาวปลาในสตรีหลังคลอด โรคหนองใน แก้น้ำเหลืองเสีย รักษาฝี ช่วยบำรุงร่างกาย แก้อาการปวดเมื่อย และช่วยรักษาอาการผอมแห้งแรงน้อย อีกทั้งพบว่าสารสกัดด้วยเมทานอลจากเมล็ดสะแกมีฤทธิ์สามารถช่วยยับยั้งการทำลายเซลล์ตับได้ ฯลฯ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นสะแก
ในยุคปัจจุบันคนรุ่นหลัง ๆ อาจจะไม่ค่อยรู้จักหน้าตาของต้นสะแก กันมากนัก และไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากต้นสะแก นั้นมีลำต้นที่สูงใหญ่การนำไปปลูกจึงจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการปลูกค่อนข้างเยอะ ซึ่งสวนทางกับวิถีชีวิต และไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันที่มักจะพักอาศัยอยู่ตามคอนโค ห้องพัก หรือบ้านมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แตกต่างจากสมัยโบราณที่คนมักจะมีบริเวณบ้านกว้างขวางกว่ามาก
ต้นสะแกหรือ สะแกนา เป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงเฉลี่ยประมาณ 5-10 เมตร มีลักษณะเป็นไม้พุ่มโปร่ง ลำต้นมีสีน้ำตาลอมเทา ลำต้นขรุขระ เมื่อมีอายุมากขึ้นลำต้นจะมีปุ่มหนามแหลมยาวงอกกระจายอยู่ตลอดทั้งต้น มีการแตกกิ่งย่อยจำนวนมาก กิ่งมีสีน้ำตาลอมเทาและผิวไม่เรียบ
ใบสะแกมีลักษณะเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับตรงข้ามกัน ใบมีรูปทรงไข่ สีเขียวสด ปลายใบเรียวรี โคนใบรูปทรงรี ผิวใบเป็นมันเงา สัมผัสสากมือ สามารถมองเห็นเส้นกลางใบและเส้นแขนงชัดเจน มีก้านใบสั้นสีน้ำตาล
ดอกสะแกเป็นแบบช่อเชิงลดมักจะออกดอกเป็นช่อกระจุกกันอยู่ตามซอกใบ และปลาดยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก มีกลีบดอกสีขาวอมเหลือง มีก้านดอกสั้นหรือไม่มีก้านดอก ในช่อหนึ่งจะมีดอกขนาดเล็กจำนวนมาก บริเวณช่วงโคนของกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ส่วนปลายแยกออกเป็น 4 กลีบ มีสีขาวอมเหลือง และมีกลีบดอก 4 กลีบ สีขาวอมเหลือง ดอกหลุดร่วงได้ง่าย บริเวณตรงกลางดอกประกอบด้วยเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย โดยมักจะออกดอกให้ชมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
ผลสะแกมีลักษณะเป็นรูปไข่ แบ่งออกเป็นครีบ 4 ครีบ ผลอ่อนมีสีน้ำตาลอมขาว ผลแก่มีสีเหลืองอมน้ำตาล ด้านในผลจะมีเมล็ดพันธุ์รูปทรงคล้ายกระสวยสีน้ำตาลอมแดงอยู่ประมาณ 2 เมล็ด
การปลูกเลี้ยงดูแลต้นสะแกให้เติบโตได้ดี
ต้นสะแกจัดเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาที่น่าปลูกมากอีกชนิดหนึ่ง เป็นไม้ปลูกเลี้ยงดูแลง่าย ทนทาน ทนร้อน ชอบแสงแดดจัด และมีประโยชน์มากมายทั้งให้ร่มเงาได้ดี เนื้อไม้สามารถนำไปใช้ประโยชน์และซื้อขายได้ รวมถึงเป็นยาสมุนไพรโบราณที่น่าสนใจด้วยค่ะ
ต้นสะแกสามารถขยายพันธุ์ได้โดยวิธีการเพาะเมล็ด เหมาะสำหรับการนำไปปลูกในบริเวณกลางแจ้งสามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกประเภทแต่จะเจริญเติบโตได้ดีในดินเหนียว สามารบำรุงดินเพิ่มเติมได้โดยการนำปุ๋ยคอกมาผสมลงในดินก่อนนำไปปลูก นอกจากนี้ก็ยังเป็นไม้ที่ชอบความชุ่มชื้นในระดับปานกลาง โดยในช่วง 1 เดือนแรกที่เริ่มปลูก ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) หลังจากนั้นเมื่อต้นพันธุ์แข็งแรงดีแล้วจึงค่อยปรับเปลี่ยนมาเป็นการรดน้ำวันละ 1 ครั้งในช่วงเช้า ซึ่งทั้งนี้ก็จะต้องขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของต้นไม้และสภาพแวดล้อมที่นำไปปลูกด้วยนะคะ ช่วงเวลาที่ควรเริ่มการปลูกแนะนำให้ปลูกในช่วงฤดูฝนจะดีที่สุดค่ะ
ในส่วนของแสงแดดนั้นผู้ปลูกควรเลือกนำไปปลูกในบริเวณโล่งแจ้ง หรือในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างเพียงพอ เพราะหากได้รับแสงแดดไม่พียงพออาจจะทำให้ต้นสะแกเจริญเติบโตได้ช้า มีทรงพุ่มบาง ใบน้อย และมีรูปทรงใบที่หงิกงอไม่สวยงาม สำหรับใครที่มีสวนโล่งกว้างหรือมีพื้นที่ที่ยังว่างอยู่แต่ไม่รู้จะปลูกอะไรดี แนะนำให้หา เจ้าต้นสะแก มาปลูกเอาไว้เยอะ ๆ ปลูกต้นติดดีเมื่อไหร่ก็แทบจะไม่ต้องดูแลอะไรมากแค่ปล่อยให้เติบโตเอง รอให้เจริญเติบโตเต็มที่ก็สามารถซื้อขายเนื้อไม้สร้างรายได้เข้ากระเป๋าได้แบบสบาย ๆ เลยล่ะค่ะ
ที่มา medthai