
พิกุล (Asian bulletwood)
ประโยชน์ดีๆที่ทำให้ควรปลูก พิกุล ไม้ดอกกลิ่นหอมที่บานได้แค่วันเดียว
พิกุล (Asian bulletwood) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mimusops elengi L. มีต้นกำเนิดในประเทศอินเดีย อินโดจีน ไทย พม่า และแถบหมู่เกาะอันดามัน เป็นไม้ยืนต้นไม้ผลัดใบ เมื่อโตเต็มที่สามารถสูงได้มากถึง 10-25 เมตร มีกิ่งก้านมากมายเป็นพุ่มกว้างหนาทึบ ลำต้นมีสีเทาอมน้ำตาล ใบพิกุลเป็นใบเดี่ยวรูปทรงไข่ ขอบใบเรียบมีสีเขียวอ่อน หลุดร่วงได้ง่าย ส่วนดอกออกเป็นกระจุก 2-6 ดอก มีสีขาวนวล มีกลิ่นหอมในดอกจะมีน้ำมันหอมระเหย ธรรมชาติของดอกพิกุลจะบานได้เพียงวันเดียวก็หลุดร่วงแล้ว เพราะมีขั้วดอกที่หลุดง่ายมากๆ แต่ก็สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี เป็นการชดเชยดอกที่ร่วงหล่นไป ส่วนผลรูปไข่ ผิวเรียบ ผลดิบมีสีเขียว ผลสุกมีสีแสด มีรสหวานอมฝาด ผลิตผลได้ตลอดปี นอกจากนี้ต้นพิกุลยังเป็นต้นไม้พระราชทานประจำจังหวัดลพบุรีและเป็นต้นไม้ประจำเขตมีนบุรี ส่วนดอกพิกุลเป็นเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดกำแพงเพชร ยะลา และลพบุรี ฯลฯ
ประโยชน์ต่างๆของต้น พิกุล (Asian bulletwood) ที่ควรรู้
– ข้อมูลทางยาพบว่าดอกพิกุลมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน มีฤทธิ์กดหัวใจทำให้หัวใจเต้นช้าลง ช่วยลดความดันโลหิต สามารถต้านเชื้อไวรัส ฆ่าเชื้อรา ฆ่าพยาธิได้
– มีสรรพคุณทางยาสามารถใช้เป็นยาบำรุงเลือดโดยการนำดอก , แก่น , แก่นราก , ราก มาต้มน้ำดื่ม
– การนำแก่นรากและดอกแห้ง มาต้มรวมกันกรองเอาเฉพาะน้ำมาดื่ม เพื่อใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ช่วยให้หัวใจชุ่มชื่น เป็นวิธีรักษาโรคของคนที่หัวใจอ่อนแอในสมัยโบราณที่ทำกันอย่าง แพร่หลาย
– ดอกแห้ง ใช้แก้อาการอ่อนเพลีย ร้อนใน เจ็บคอ ช่วยขับเสมหะ ช่วยแก้อาการตกเลือด
– ดอกพิกุล มีกลิ่นหอมเย็นจึงนิยมนำไปไหว้พระ
– เปลือกต้นพิกุล ใช้ทำเป็นสีย้อมผ้าได้
– ในสมัยก่อนนิยมปลูกต้นพิกุลเอาไว้ในบริเวณบ้าน เพราะเชื่อว่าช่วยเสริมสิริมงคลให้กับผู้ปลูก และคนที่อยู่อาศัยภายในบ้าน ส่งผลให้มีอายุมั่นขวัญยืนเหมือนต้นพิกุลที่ทนทาน แข็ง แรงและอายุยืน รวมถึงนิยมนำเนื้อไม้มาประกอบในพิธีมงคลต่างๆด้วย
– นำไปสกัดทำเป็นน้ำมันหอมระเหย ใช้ทำเครื่องสำอาง น้ำหอม และแต่งกลิ่นอาหาร
ดูแลยังไงให้พิกุลทำให้เจริญงอกงาม
ดิน ควรปลูกในดินร่วนซุยที่มีความโปร่งสามารถระบายน้ำได้ดี
น้ำ ไม่ชอบให้รดน้ำเยอะ ควรรดน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
แสงแดด เป็นต้นไม้ที่ชอบแดดควรปลูกไว้กลางแจ้ง หรือบริเวณที่แสงแดดส่องถึงตลอดวัน
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ในอัตราส่วน 2-3 กิโลกรัมต่อต้น ปีละ 4-6 ครั้ง
การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ได้โดยการตอน การเพาะเมล็ด ส่วนมากจะนิยมการเพาะเมล็ดมากกว่า เพราะมีรากแก้วจะแข็งแรงกว่าทำให้ทนทานตายยาก
ศัตรูพืช มักพบปัญหาว่ามีหนอนมาเจาะลำต้น
การป้องกัน ทำได้โดยพยายามรักษาความสะอาดของแปลงปลูกอยู่เสมอ
นอกจากนี้ต้นพิกุลยังถูกนำไปใช้ทำประโยชน์ต่างๆได้อีกมากมาย เช่น นำไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆมากมาย ส่วนใครที่มีพื้นที่เหมาะสมในการปลูกไม้ใหญ่อย่าปล่อยทิ้งไว้เปล่าๆ คุณสามารถนำที่ดินมาทำให้เกิดประโยชน์ได้โดยปลูกเพื่อเป็นไม้ล้อมหรือเพาะพันธุ์ไว้จำหน่ายสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว นอกจากนี้คุณยังจะได้รับประโยชน์จากการให้ร่มเงา ทำให้ดูร่มรื่น จะช่วยให้มีอารมณ์ที่แจ่มใสเบิกบาน แถมยังช่วยฟอกอากาศได้เป็นอย่างดีมีอากาศที่บริสุทธิ์ดีต่อสุขภาพ ประโยชน์ดีๆมีเยอะขนาดนี้สงสัยวันหยุดรอบหน้าต้องไปหามาปลูกกันแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก satitm.chula