พลูงาช้าง หรือ พลูด่างอินเดีย
พลูงาช้าง ไม้ฟอกอากาศ ปลูกง่าย ดูดซับสารพิษได้ ปลูกไว้เป็นมงคล
พลูงาช้าง หรือ พลูด่างอินเดีย ในบรรดาไม้ฟอกอากาศที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน พลูงาช้าง , พลูช้าง เป็นอีกหนึ่งพันธุ์ไม้ที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน โดยพลูงาช้างถูกจัดให้อยู่ในวงศ์บอน ( ARACEAE ) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Epipremnum aureum (Linden & André) G. S. Bunting และมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย
พลูงาช้างมีฟอร์มใบที่โดดเด่น ใบมีลวดลายและสีสันสวยงามจึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับบ้าน สวน และตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อความสวยงามร่มรื่น อีกทั้งมีคุณสมบัติสามารถฟอกอากาศได้ดี ดักจับสารพิษในอากาศ และช่วยให้อากาศโดยรอบสะอาดบริสุทธิ์ขึ้นด้วยจึงมักมีคนนำมาปลูกเอาไว้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องทำงาน ฯลฯ เพื่อให้ช่วยฟอกอากาศและสร้างบรรยากาศดี ๆ
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเป็นไม้มงคลที่สามารถช่วยเสริมให้ผู้ปลูกพบเจอแต่สิ่งที่ดีมีมงคล มีความร่มเย็นเป็นสุข และเจริญรุ่งเรือง สามารถปลูกเป็นไม้กระถางแบบตั้ง กระถางแบบแขวน และปลูกลงแปลงดินประดับสวน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ที่โดดเด่นของ พลูงาช้าง หรือ พลูด่างอินเดีย
ต้นพลูงาช้าง มีลักษณะเป็นไม้เลื้อยอิงอาศัย ลำต้นมีสีเขียวอ่อน ผิวเกลี้ยง ลำต้นมีรูปทรงกลมคล้ายกันกับต้นพลูด่าง ปลูกง่ายแต่จะโตช้ากว่าต้นพลูสายพันธุ์อื่น และมักจะเลื้อยเกาะเกี่ยวไปตามวัตถุที่อยู่ใกล้เคียง
ใบจะมีรูปหัวใจขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นใบเดี่ยวที่ออกเรียงสลับกัน ใบมีสีเขียวด่างสีขาว-ครีม ปลายใบเรียวแหลม โคนใบโค้งมนและหยักลึกเป็นรูปหัวใจ ผิวใบเกลี้ยง ขอบเรียบ แผ่นใบบิดเล็กน้อย
การดูแลพลูงาช้างให้สวยงาม
พลูงาช้าง สามารถขยายพันธุ์โดยวิธีการปักชำ เป็นไม้ประดับปลูกง่าย ดูแลง่าย ทนทานต่อโรค สามารถปลูกลงแปลงดินในสวน ปลูกในกระถางแบบตั้ง-กระถางแบบแขวน หรือจะปลูกในน้ำก็ได้
การปลูกเลี้ยงควรเลือกปลูกในดินร่วนซุยที่ระบายน้ำได้ดี ดินอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ ควรรดน้ำอย่าสม่ำเสมอวันละ 1-2 ครั้ง ชื่นชอบที่ร่มที่มีแสงแดดส่องถึงรำไรหรือมีแดดปานกลาง ควรใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมี เพื่อบำรุงดินอยู่เสมอ ประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือน โดยหากใช้ปุ๋ยเคมีควรใช้สูตรเสมอ 15-15-15 xประมาณ 1 ช้อนชา 1-2 ครั้งต่อเดือน เพื่อให้ต้นโตใบสวยและต้านทานโรคได้ดี
คลิปจาก Sky Plants
นอกจากนี้ควรมีการนำออกไปรับแสงแดดบ้างในกรณีที่นำไปปลูกเอาไว้ในบ้านหรือในห้องที่แสงแดดส่องไม่ถึง เป็นเป็นการช่วยให้ต้นและใบแข็งแรง หากต้องการให้มีการอตกใบใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ผู้ปลูกควรตัดแต่งกิ่งและใบให้สวยงามอยู่เสมอ หากต้องการให้เลื้อยตามรูปทรงที่ต้องการสามารถนำลวดมาดัดให้เลื้อยไปตามรูปทรงของแนวลวดได้ ดูแลง่าย ๆ แค่นี้ต่อให้เป็นมือใหม่หัดปลูกเลี้ยงยังไงก็รอดจริงมั้ยคะ
แหล่งข้อมูลจาก garden-review
